วันพฤหัสบดีที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2553

Phrasal Verbs

Phrasal Verbs คือ กริยาที่ประกอบด้วยส่วนที่เป็นกริยา ( verb ) และคำอื่น ( มักเป็นคำบุพบท ) เมื่อรวมกันแล้วความหมายมักเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เช่น give up , get up

Inseparable Verbs with no objects

คือ phrasal verb ที่ต้องติดกัน ไม่สามารถแยกจากกันได้ ไม่ต้องมีกรรม เช่น

set off ออกเดินทาง Speed up เร่งความเร็ว
Wake up ตื่นนอน Stand up ยืนขึ้น
Come in เข้ามาถึง Get on ขึ้น (รถ) / เข้ากันได้
Carry on ทำต่อไป Find out เรียนรู้
Grow up เติบโต Turn up ปรากฏตัว
Seattle down ตั้งรกราก ลงหลักปักฐาน

Example : The plane will set off at 6 o`clock

----------------------------------------------------------------------------

Inseparable Verbs with objects

คือ phrasal verb ที่ต้องอยู่ติดกัน ไม่สามารถแยกจากกันได้ แต่ต้องมีกรรม เช่น

Look after เลี้ยงดู Look into สอบถาม ตรวจสอบ
Run into ชน Come across พบโดยบังเอิญ
Take after เหมือนถอดแบบ Deal with ติดต่อ เกี่ยวข้อง
Go off ออกไป จากไป หยุดทำงาน Cope with จัดการ
Go off ออกไป จากไป หยุดทำงาน

Example : The parents look after their children

----------------------------------------------------------------------------------------------

Separable verbs

Separable verbs ที่แยกจากกันได้ มักจะต้องการกรรม

Turn on เปิด(ไฟ) Turn off ปิด (ไฟ)
Turn down หรี่ (เสียง) Swith off ปิด
Look up มองหา Take off ถอด ออกดินทาง
Try on ลองสวม

วางกรรมตรงไว้หน้า หรือ หลัง preposition ก็ได้

Example : Please turn off the light before going out off

Please turn the light off before going out

----------------------------------------------------------------------------

Three-Word Phrasal Verbs

คือ phrasal verb ที่ไม่มีกรรมและบางครั้งมีการใช้บุพบทมากกว่า 1 ตัว เช่น

Get on with ทำต่อไป ไม่หยุด Cut down on ลดปริมาณลง
Look out for เตรียมพร้อม Catch up with ตามทัน
Run out of หมด Get down to เอาจริงเอาจัง
Stand up for ปกป้อง เดือดร้อนแทน Look down to ดูถูก
Look up to ยอมรับนับถือ Put up with อดทน
Look out on มองออกไป

Example : I must get on with my work.

แต่ในบทเรียนของเราที่เราจะเรียนนะครับ เราจะเน้นเรื่องการใช้ Turn เพียงเท่านั้น ดังนั้นครูก๊อตขออธิบายเพิ่มเติมในเรื่องของการใช้ Turn ให้มากขึ้น ตามเนื้อหาที่เราจะเรียนนะครับ เราลองมาดูทีละตัวเลยครับ
1. Turn up = มาถึง (ในที่นี้คำว่า Turn up จะมีความหมายเหมือนกับคำว่า arrive นะครับ)หรือจะใช้ในการบอกให้เพิ่มเสียงก็ได้ ดังนั้นจะต้องอ่านประโยคให้ดีนะครับว่าหมายถึงอะไร
2. Turn down = ปฏิเสธ (ในที่นี้คำว่า Turn down จะมีความหมายเหมือนกับคำว่า No! นะครับ)หรือจะใช้ในการบอกให้ลดเสียงลงก็ได้ ดังนั้นจะต้องอ่านประโยคให้ดีนะครับว่าหมายถึงอะไร
3. Turn off = ปิด เราจะใช้กับพวกอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ ความหมายก็เหมือนกับคำว่า switch off
4. Turn on = เปิด เราจะใช้กับพวกอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ ความหมายก็เหมือนกับคำว่า switch on
5. Turn around = หมุนรอบตัว หรือ หันหลังไป
6. Turn over = พลิกหนังสือ

หลักจริง ๆ ว่าเราจะใช้ phrasal verb ตัวไหนอย่างไร ก็คือนักเรียนจะต้องอ่านและตีประโยคให้แตกเสียก่อนนั่นเองครับ เราลองมาทำแบบฝึกหัดกันดูดีกว่า
Complete each sentence.
1. Isn't it about time you turned ___ ? It's getting rather late.

2. They turned this section of river ____ a water park for the city.

3. Keep looking. It's bound to turn _____ sooner or later.

4. He was turned ____ because of his age. He was too young.

5. She turned ____ and went back home because she forgot something.

6. Why turn ____ car? I'm just going in to get my sunglasses.

7. Mother turned us ____ from the kitchen as she didn't want any distractions.

8. He was turned ____ for his Visa application because he had been in jail.

9. She turned ____ to be an heiress to a small fortune.

10. Turn ___ that noise, will you? I'm trying to get some sleep.

Key
1. in 2. into 3. up 4. down
5. around 6. off 7. away 8. down
9. out 10. off

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น